วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หลักการออกแบบและพัฒนาการนำเสนองานผ่านเว็บ

ขั้นตอนเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับพัฒนาเว็บไซต์

1.1 กำหนดเป้าหมายหลักของเว็บไซต์
- กำหนดเป้าหมายหลักของเว็บไซต์ให้ชัดเจน เพื่อเป็นตัวกำหนดขอบเขตของเว็บไซต์ ซึ่ง
สามารถกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มตามความสำคัญ เพื่อให้ผู้พัฒนาได้เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญเป็นลำดับแรก
- ระบุวิธีวัดความสำเร็จ เพื่อประเมินผลความสำเร็จของเว็บตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจวัดจากการเพิ่มยอดขายที่มากขึ้น หรือมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นหรือวัดจากปริมาณผู้ที่เข้ามาอ่านข้อมูล เป็นต้น
- พิจารณาทรัพยากรที่มี อันได้แก่ บุคลากร เงินทุน ระยะเวลา และเนื้อหา
1.2 กำหนดกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย ใคร มีลักษณะอย่างไร เพื่อจะได้ออกแบบเว็บไซต์ได้ตรงกับกลุ่มผู้ใช้หลัก
- ค้นหาสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ เพื่อสร้างความสำเร็จดังนั้น เว็บจะต้องตอบคำถามของผู้ใช้ได้ว่า
ต้องการอะไร และจะได้ประโยชน์อะไรจากเว็บบ้าง
- ศึกษาว่ามีเว็บใดบ้างที่ให้บริการคล้ายกัน โดยสำรวจถึงเนื้อหา ลักษณะการออกแบบ เพื่อ
นำมาวิเคราะห์หาจุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละเว็บ เพื่อนำมาประกอบการกำหนดขอบเขตและลักษณะ
การออกแบบของเว็บไซต์

ขั้นตอน และกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนที่ 1 : เก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับพัฒนาเว็บไซต์
1. กำหนดเป้าหมายหลักของเว็บไซต์
2. เนื้อหาสำหรับจัดทำเว็บไซต์
ขั้นตอนที่ 2 : พัฒนาเนื้อหา (Site Contact)
1. สร้างกลยุทธ์การนำเสนอข้อมูล เพื่อให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ เป็นที่น่าสนใจ
2. กำหนดขอบเขตเนื้อหาที่จะนำเสนอ
3. จัดรูปแบบเนื้อหาข้อมูลให้ถูกต้องอย่างมีระบบ
ขั้นตอนที่ 3 : พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
1. จัดทำแผนผังโครงสร้างข้อมูล
2. พัฒนาระบบเนวิเกชั่น
ขั้นตอนที่ 4 : ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ (Visual Design)
1. ออกแบบลักษณะหน้าจอโฮมเพจ และเว็บเพจ
2. พัฒนาเว็บเพจต้นแบบที่จะใช้สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์
3. พัฒนาเครื่องมือสำหรับ Update หรือเพิ่มเติมข้อมูลต่างๆในเว็บไซต์
ขั้นตอนที่ 5 : พัฒนาและดำเนินการ (Production and Operation)
1. ใส่ข้อมูล และเนื้อหาที่จะนำเสนอลงในหน้าจอโฮมเพจ และเว็บเพจ
2. เปิดตัวเว็บไซต์ และทำให้เป็นที่รู้จัก
3. ดูแล และพัฒนาต่อเนื่อง

หลักการสร้างเว็บไซต์
1. กำหนดจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่จะทำอะไรท่านต้องมีจุดมุ่งหมายในการทำงาน การทำเว็บไซต์ก็เช่นเดียวกัน ท่านจะต้องมีจุดหมายว่า ท่านจะทำเพื่ออะไร เพื่อใครเมื่อท่านมีจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมายที่แน่ชัดแล้ว จะทำให้ท่านมองเห็นเป้าหมายในการทำงานได้ชัดเจนขึ้น ตัวอย่างเช่น นอกจากเรื่องการถ่ายภาพและเรื่องเทคโนโลยีการศึกษาแล้ว ผมยังมีความสนใจเรื่องของช้างถ้าจะทำเว็บไซต์ผมก็จะทำเรื่องช้าง โดยมีจุดหมายเพื่อนำเสนอความรู้เกี่ยวกับช้างตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน และกลุ่มเป้าหมายของผมคือคนที่สนใจเรื่องช้างและเรื่องธรรมชาติ เป็นต้น
2. รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ
เมื่อท่านได้เรื่องราวที่จะนำเสนอ โดยมีจุดมุ่งหมายและกลุ่มเป้าหมายแน่ชัดแล้ว ก็ถึงขั้นตอในการรวบรวมแหล่งข้อมูล ผมยกตัวอย่างเรื่องช้างอีกนะครับ ผมก็จะค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งที่เป็นเนื้อหา รูปภาพเสียง ตลอดจนภาพเคลื่อนไหว เพราะทั้งหมดสามารถนำเสนอผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตได้ พอได้ข้อมูลมากพอแล้ว ก็ไปต่อขั้นตอนต่อไปเลยครับ
3. ศึกษาและเรียงลำดับข้อมูล
เมื่อท่านได้ข้อมูลมาแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องมานั่งอ่านมานั่งศึกษากันว่าส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกันบ้าง พอจะแยกเป็นหมวดเป็นหมู่ได้หรือเปล่า เช่น ผมหาข้อมูลเรื่องช้างมาได้พอสมควร ผมก็จะมาแยกแยะ ดังนี้ ประวัติของช้างตั้งแต่ดึกดำบรรพ์, วิวัฒนาการของช้าง, ประเภทของช้าง ช้างไทย, ระโยชน์ของช้าง ฯลฯ เป็นต้น เมื่อได้หัวข้อหลักๆ แล้ว หัวข้อย่อยก็จะตามมาเองครับ
4. การออกแบบสาร (Message Design)
เมื่อท่านได้เนื้อหาและหัวข้อในการนำเสนอแล้ว ต่อไปก็๋เป็นการออกแบบเนื้อหาให้น่าสนใจ ถ้าตามหลักของเทคโนโลยีการศึกษาเราจะเรียกว่าการออกแบบสาร (Massage Design) การออกแบบสารนี้นอกจากเนื้อหาแล้ว ยังรวมไปถึงองค์ประกอบต่างในการนำเสนอด้วย เช่น สีของตัวอักษร, ภาพประกอบ, กราฟิกต่างๆ เสียง ฯลฯ เหล่านี้จะต้องสื่อความหมายไปในทางเดียวกันกับเนื้อหาด้วย นอกจากนี้ ควรจะเป็นมาตรฐานเดียวกันเช่น สีของตัวอักษร หรือ ปุ่ม (button) ในการเชื่อมโยง (link
5. ทำแผนผังของงาน (Flowchart)
ขั้นตอนนี้จะทำให้ท่านลำดับเรื่องราวได้ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์ในการเชื่อมโยง (link) เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน นักออกแบบบางคนอาจใช้กระดาษสติกเกอร์แปะไว้บนบอร์ด ตามลำดับของเนื้อหาเพราะง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะใช้วิธีการเขียนบนไวท์บอร์ดด้วยปากกาที่ลบได้
6. การเขียน (Storyboard)
หากท่านเคยทำงาน Presentation มาก่อนก็คงจะทราบว่าประโยชน์ของ Storyboard นั้นมีมากมาย เพราะจะทำให้มองเห็นภาพหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และถ้าหากท่านใดมีฝีไม้ลายมือในเชิงศิลปะแล้ว ก็๋จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นไปอีก เมื่อครั้งผมทำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนั้นจะมีกระดาษ Storyboard สำหรับออกแบบโดยเฉพาะและว่ากันเป็น Pixel เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม บางท่านอาจจะมองภาพไว้ใจแล้วนั่งทำหน้าจอเลยก็ได้
7. ลงมือทำ
งานการใดๆ ถ้าไม่ลงมือทำ ก็ย่อมไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ ดังนั้นขั้นตอนนี้ ไม่ขอกล่าวมากนัก ส่วนเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ จะไปว่ากันใน หัวข้อ "เครื่องมือในการสร้างเว็บเพจ" เพราะหน้านี้ยาวเกินทฤษฎีแล้ว
8. ทดสอบและประเมินผล
หลังจากที่ท่านทำเสร็จทุกขั้นตอนของการทำเว็บเพจแล้ว ก็ควรจะมีการทดสอบและประเมินผลจากตัวท่านเองก่อน โดยสมมติว่าท่านเองเป็นผู้ชมคนหนึ่ง ควรดูการเชื่อมโยงว่า สีเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกหน้าและใช้การได้หรือเปล่า ภาพหรือกราฟิกตรงตามเนื้อหาหรือไม่ จากนั้นให้แนะนำเพื่อนฝูงให้ดูและช่วยตรวจสอบอีกที หากพบข้อบกพร่องก็ควรแก้ไข ก่อนจะประชาสัมพันธ์ต่อไป

เริ่มต้นกับการสร้างเว็บไซต์
ก่อนอื่น ๆ เรา มาทำความรู้จัก กับ "Web Presentation" กันก่อน จะว่าไปแล้วกระบวนการจัดสร้างเว็บไซต์นั้นก็ไม่ได้แตกต่างจากการนำเสนอผ่านสื่ออื่นๆ เท่าใดนัก ท่านใดที่เคยทำงาน Presentation หรือผ่านการทำสื่อประเภทต่างๆ เช่นการทำสไลด์ การทำรายการโทรทัศน์ การนำเสนอผลงานด้วยโปรแกรม PowerPoint หรือการทำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(Computer-Assisted Instruction : CAI) สิ่งเหล่านี้ล้วนมีกระบวนการไม่แตกต่างกันมากมายเท่าใดนัก การนำเสนอบนเว็บนั้นก็จัดเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของกระบวนการสื่อสาร เราลองมาดูนะว่ารูปแบบและกระบวนการสื่อสารนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
กระบวนการสื่อสารมีองค์ประกอบ 4 ส่วน ดังนี้
1. ผู้ส่งสาร (Sender) ซึ่งก็คือเรานั่นเอง
2. สาร (Message) หมายถึง สิ่งที่เราต้องการนำเสนอ
3. สื่อหรือช่องทาง (Medium/Channel) หมายถึง ตัวกลางหรือสิ่งที่จะนำสารที่เราต้องการต้องการนำเสนอไปสู่ผู้รับ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ต่างๆ และในที่นี้ก็คงจะเป็น Web Site นั่นเอง
4. ผู้รับ (Receiver) ก็คือผู้รับสาร และการนำเสนอผ่าน WWW นั้นผู้รับสาร เรามีมากมายทั่วโลกที่จะเข้ามาชม Web ของเรา ดังนั้นในการออกแบบและจัดทำนั้นเราควรมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้เรามีเป้าหมายในการทำงาน
http://blog.sanook.com/DesktopModules/MIH/Blog/ http://www.kradandum.com/thesis/thesis-02-4.htm

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

ตำรับขนมไทย Copyright © 2009 Cookiez is Designed by Ipietoon for Free Blogger Template